นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) ประจำปี 65 (ม.ค.-ธ.ค.) อยู่ที่ 6.08% ใกล้เคียงกับที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ว่าเงินเฟ้อทั้งปี 65 จะอยู่ที่ 5.5-6.5%โดยตัวเลขเงินเฟ้อปีนี้ถือเป็นสถิติตัวเลขที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 24 ปี นับจากปี 41 ที่เคยขึ้นไปสูงถึง 8.1% ส่วนเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 65 เท่ากับ 107.86 เทียบกับเดือน ธ.ค. 64 เพิ่มขึ้น 5.89%

“เงินเฟ้อทั้งปี 65 ที่เพิ่มขึ้น 6.08% นั้น มีปัจจัยสำคัญมาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยทั้งปีสูงขึ้นถึง 23.93% และยังมีปัญหาจากภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้การผลิตพลังงานตึงตัว ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมัน ค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม และยังมีการปรับขึ้นค่าจ้าง ดอกเบี้ย เงินบาทอ่อนค่า ที่กระทบต่อต้นทุนแฝงในการผลิต ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น และยังมีโรคระบาดในสุกร ปัญหาอุทกภัย ที่กระทบต่อการผลิตของเนื้อสุกรและผักสด ทั้งนี้ หากแยกเงินเฟ้อที่สูงขึ้น 6.08% พบว่า สัดส่วน 1% มาจากการเพิ่มขึ้นของเนื้อสุกร ไก่ และไข่ไก่ 1% มาจากอาหารสำเร็จรูป 1% มาจากค่ากระแสไฟฟ้า 2% มาจากค่าน้ำมัน และ 1% สุดท้าย เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าอื่น ๆ”

ส่วนของเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับ พ.ย. 2565 และเพิ่มขึ้น 3.23% เมื่อเทียบกับธ.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2564 และเฉลี่ย 12 เดือน เพิ่ม 2.51%

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อในปี 66 กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ 2.0-3.0% มีค่ากลางอยู่ที่ 2.5% ซึ่งน่าจะต่ำสุดในรอบ 10 ปี เพราะปี 56 เงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ 2.18% โดยมีสมมุติฐานจากการขยายตัวของจีดีพี ที่ 3.0-4.0% ราคาน้ำมันดิบดูไบ 85-95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำที่ดูตอนนี้ เงินเฟ้อทั้งปียังมีโอกาสปรับลงอีก เพราะสมมุติฐานราคาน้ำมัน มีแนวโน้มลดลง โดยเฉลี่ย ธ.ค. 65 อยู่ที่ 76.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เงินบาทก็แข็งค่าขึ้นเฉลี่ย ธ.ค. 65 อยู่ที่ 34.97 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยหากสถานการณ์เปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับทิศทางไตรมาสแรกจะยังเพิ่มขึ้น แต่จะชะลอตัวจากช่วงปลายปี 65 และค่อย ๆ ลดลงตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 เป็นต้นไป เพราะสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัวและราคาเริ่มปรับลดลง ราคาพลังงานมีแนวโน้มลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ และฐานปี 65 ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล การกำกับดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์

“แต่ก็มีปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ เช่น การขึ้นค่าไฟฟ้า การปรับค่าจ้างทั้งระบบ เงินบาทที่ยังผันผวน การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่จะกระทบต่อสินค้าและบริการในบางกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา เช่น ความผันผวนสินค้าโภคภัณฑ์จากความเสี่ยงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ สภาพอากาศแปรปรวน การระบาดของโควิด-19 และโรคระบาดในสัตว์ ที่จะต้องติดตามใกล้ชิด”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

By admin